เพจที่นี่อ่างทอง ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี ชวนนักท่องเที่ยวสักการะ "๑๑๗ เกจิอาจารย์สังขารเหนือกาลเวลา"
หลวงปู่ผาด อภินันโท หรือ พระครูมงคลสาธุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ เป็นพระที่ชอบช่วยเหลือผู้คน และเมื่อก่อนนั้นวัดไร่ก็ยังเป็นที่รับเลี้ยงดูเด็กชาวเขาอีกด้วย ทำให้เป็นที่เลื่อมใสของคนในพื้นที่และคนต่างจังหวัด มีลูกศิษย์มากมาย และยังเคยฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ท่านเจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ โดยได้รับการยืนยันรับรองจากปากหลวงพ่อสด ว่า “แสงแห่งพระธรรมกายนั้น ถ้าหยุดถูกที่แล้วจะสว่างไสวยิ่งกว่าพระอาทิตย์สักร้อยดวงมารวมกัน ถ้าใครยังไม่เชื่อให้ถามพระจากอ่างทององค์นี้ดู เพราะท่านสำเร็จธรรมกายขั้นสูงสุดแล้ว” พูดพลางหลวงพ่อสด ก็ชี้มือมาที่หลวงปู่ผาด ซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระหนุ่มอยู่
หลวงปู่ผาด ยังเรียนวิชาสำคัญจากพระเกจิสายอ่างทอง เช่น เรียนทำผงวิเศษจากหลวงพ่อภู วัดดอนรัก เรียนทำเบี้ยแก้ เสกปรอท จากหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ เรียนทำตะกรุดโบสถ์ลั่นจากหลวงปู่คำ วัดโพธิ์แก้ว หลวงปู่ผาดมรณภาพเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2557 สิริเวลา 20.59 น. รวมอายุได้ 98 ปี 76 พรรษา ทั้งนี้ หลวงปู่ผาด ถือเป็นพระอริยสงฆ์ที่สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลได้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีวิทยาคมที่สามารถอัญเชิญ พญาครุฑ เทพ พรหม ได้จริง โดยวัตถุมงคลของท่านได้ก่อให้เกิดประสบการณ์ต่อบรรดาศิษยานุศิษย์อย่างมากมาย
ตามเทวตำนานพญาครุฑ เป็นพาหนะของพระนารายณ์ ไม่มีอะไรกินก็จะจับ นาค ซึ่งเป็นบริวารของอนันตนาคราชกิน พระนารายณ์เกรงว่า ครุฑกับนาคจะผิดใจกันท่านจึงอนุญาตให้ครุฑจับสัมภเวสี หรือวิญญาณร้ายที่ให้โทษกับมนุษย์กินได้ ยิ่งไปกว่านั้น พญาครุฑ จะกางปีกพัดพาความวิบัติขัดสน ความขัดแย้ง ปัญหาอุปสรรคขัดขวางความเจริญให้ออกไปให้พ้นทาง แล้วพัดพาความร่ำรวยเงินทอง แก้วแหวน เนื้อคู่หน้าที่การงานที่ดีมาให้

-------------------
เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ ( หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ ) ได้มาปักกลดธุงดงค์เห็นว่าบริเวณนี้เคยเป็นวัดร้าง จึงน่าปฏิบัติธรรม แต่ขณะปฏิบัติธรรม ได้ปรากฏนิมิต เห็นองค์หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง มาบอกว่าให้ท่านได้ช่วยก่อสร้างวัดม่วงขึ้นมาใหม่ เพราะท่านพระครู เป็นผู้มีบารมี ที่สามารถจะก่อสร้างบูรณะวัดม่วง ขึ้นมาใหม่ได้
เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2529 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แห่งราชจักรี ได้ทรงพระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่วัดม่วง เป็นต้นมา
ในปี พ.ศ. 2534 ท่านพระวิบูลอาจารคุณ ได้ร่วมพลังจิตอธิฐาน ร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ ได้สมทบทุนสร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อน้อมถวาย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 และราชวงศ์จักรี มีพระนามว่า พระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ มีหน้าตักกว้าง 62 ม. สูง 93 ม. มูลค่าในการก่อสร้าง 106,000,000 บาท ( หนึ่งร้อยหกล้านบาท ) จนสำเร็จใน 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 รวมเป็นเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 16 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 - 2550

-------------------
พระครูสุคนธศีลคุณ (หอม ปัญญาพโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าอิฐ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง พื้นเพเดิมเป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ท่านก็ชอบเล่นซุกซนเหมือนเด็กๆ ทั่วไป ชอบตามบิดามารดาไปทำบุญที่วัดมิได้ขาด ชอบเล่นเป็นพระ สมมติตนเองนั่งเทศน์ ให้ศีลให้พรกับเพื่อนด้วยกัน เป็นที่เอ็นดูของพระเณรและชาวบ้านที่พบ
.
หลวงพ่อหอม นั้น ปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดเสมอมา ท่านจะสอน เสมอว่า ร่างกายเรามีค่าแค่ หนึ่งบาทเท่านั้น จึงไม่ควรทะนงตน โดยส่วนตัวแล้วหลวงพ่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บรรพชิตในเรื่องไม่สะสมเงินทอง เมื่อญาติโยมหรือผู้ศรัทธาถวายก็จะนำเข้าบัญชีส่วนกลางสำหรับก่อสร้าง เจดีย์ศรีโพธิ์ทอง เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9”
GPS : วัดท่าอิฐ ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
วัดอบทม อยู่ในเขตพื้นที่ ต.ยี่ล้น อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ภายในวิหารหลวงพ่อทองใบ เป็นที่ตั้งหีบบรรจุสังขาร หลวงพ่อทองใบ ฐิตจิตโต อดีตเจ้าอาวาสวัดอบทม ที่ได้มรณภาพหลายปี สังขารของหลวงพ่อทองใบไม่เน่าเปื่อย มีเกศา หรือผม ขึ้นยาวออกมาดกดำทั้งศีรษะ พร้อมยังพบมีหนวดเคราขึ้นมาบริเวณใต้คาง และมีเล็บงอกยาวออกมาด้วย โดยที่บริเวณหน้าที่ตั้งหีบบรรจุสังขารของท่านนั้น มีรูปปั้นแมวจำนวนมาก และโดยรอบบริเวณวัดยังมีแมวอีกหลายสิบตัวที่อยู่ในบริเวณวัดแห่งนี้
หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์ทองใบ ฐิตจิตโต หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า หลวงพ่อทองใบ โดยในสมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้น หลวงพ่อเป็นพระที่มีเมตตาต่อสัตว์ทุกชนิด โดยเฉพาะแมว โดยท่านได้เลี้ยงดูแมวที่วัดอย่างดี หลังได้มีชาวบ้านได้นำมาปล่อยทิ้งไว้ที่วัด หลังจากมรณภาพแล้ว ชาวบ้านที่เดินทางมากราบไหว้ขอพร ให้ประสบความสำเร็จ จึงได้นำรูปปั้นแมวมาถวายจำนวนมาก ทางวัดก็ได้นำข้าวก้นบาตรมาเลี้ยงดู พร้อมกับอาหารเม็ดที่มีญาติโยมนำมาถวาย ช่วยเหลือในการเลี้ยงดู
GPS : วัดอบทม ต.ยี่ล้น อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
โดย ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสักการะเกจิอาจารย์ สแกน QR Code ลงทะเบียน รับ ภาพที่ระลึกมหามงคล ของแต่ละวัดได้เลยนะครับ
ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Page / Facebook
หลวงพ่อหอม นั้น ปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดเสมอมา ท่านจะสอน เสมอว่า ร่างกายเรามีค่าแค่ หนึ่งบาทเท่านั้น จึงไม่ควรทะนงตน โดยส่วนตัวแล้วหลวงพ่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บรรพชิตในเรื่องไม่สะสมเงินทอง เมื่อญาติโยมหรือผู้ศรัทธาถวายก็จะนำเข้าบัญชีส่วนกลางสำหรับก่อสร้าง เจดีย์ศรีโพธิ์ทอง เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9”

-------------------
หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์ทองใบ ฐิตจิตโต หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า หลวงพ่อทองใบ โดยในสมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้น หลวงพ่อเป็นพระที่มีเมตตาต่อสัตว์ทุกชนิด โดยเฉพาะแมว โดยท่านได้เลี้ยงดูแมวที่วัดอย่างดี หลังได้มีชาวบ้านได้นำมาปล่อยทิ้งไว้ที่วัด หลังจากมรณภาพแล้ว ชาวบ้านที่เดินทางมากราบไหว้ขอพร ให้ประสบความสำเร็จ จึงได้นำรูปปั้นแมวมาถวายจำนวนมาก ทางวัดก็ได้นำข้าวก้นบาตรมาเลี้ยงดู พร้อมกับอาหารเม็ดที่มีญาติโยมนำมาถวาย ช่วยเหลือในการเลี้ยงดู

โดย ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสักการะเกจิอาจารย์ สแกน QR Code ลงทะเบียน รับ ภาพที่ระลึกมหามงคล ของแต่ละวัดได้เลยนะครับ

ที่ ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี : TAT Suphanburi Office หรือ โทร. 1672
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น