เยี่ยมชมโบราณสถาน "ธรรมชาติคุ้มครองธรรม" ต้นโพธิ์ปรกโบสถ์อายุกว่า 400 ปี วัดสังข์กระต่าย อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง


สำหรับใครหลายๆคน ผมเชื่อว่าท่านคงเคยได้ยิน ได้มาสัมผัส สถานที่แห่งนี้ วัดสังข์กระต่าย ที่มีต้นโพธิ์ปกโบสถ์ อายุมากกว่า 400 ปี ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร ให้เป็นโบราณที่สำคัญและสมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดอ่างทอง อยู่ในเขตพื้นที่ของ เทศบาลตำบลศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ซึ่งในครั้งนี้เราก็จะพาท่านมาเยี่ยมชมกันอีกครั้ง


โบราณสถาน "ธรรมชาติคุ้มครองธรรม" วัดสังข์กระต่าย จ.อ่างทอง
โบราณสถาน "ธรรมชาติคุ้มครองธรรม" หรือที่เรียกว่า ต้นโพธิ์ปรกโบสถ์ แห่งนี้ มีความสมบูรณ์และงดงามได้อย่างลงตัว และอาจจะเป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย ที่ต้นโพธิ์ได้โตจากบนกำแพงโบสถ์ ทั้ง 4 ด้าน และใช้รากเป็นที่ยึดเกาะให้กำแพงของโบสถ์แห่งนี้ ยังคงอยู่ได้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน นี้เป็นเพียงความงดงามสิ่งแรกที่เมื่อท่านได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้


รากของต้นโพธิ์ ที่ปกคลุมกำแพง
และเมื่อมาถึงด้านในก็จะพบกับ พระพุทธรูปปรางค์นาคปรก นาม หลวงพ่อแก่น ที่หลายคนอาจจะเข้าใจว่า เป็นประธานของโบถส์แห่งนี้ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากที่ได้พูดคุยกับผุ้ดูแลก็ได้เล่าให้เราฟังว่า เดิมทีหลวงพ่อแก่นไม่ได้อยู่ประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้ เดิมทีพบว่ามีแต่เศียรที่ถูกโจรตัดมาจาก วิเศษชัยชาญ และมาทิ้งไว้ที่วัด ชาวบ้านในสมัยนั้นจึงได้ร่วมกันบูรณะองค์หลวงพ่อขึ้นมาใหม่ และได้ทำพิธีประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้




 เมื่อเดินเข้ามาห้องตรงกลางจะมีพระพุทธรูปอยู่ 3 องค์ คือ หลวงพ่อวันดี (องค์กลาง) , หลวงพ่อศรี (องค์ซ้าย) , หลวงพ่อสุข (องค์ขวา) ที่ได้ประดิษฐานคู่กับโบสถ์แห่งนี้มาเป็นเวลานาน เพียงแต่ว่า ตอนที่ชาวบ้านมาพบ ตอนนั้น สภาพของพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ชาวบ้านจึงพร้อมใจร่วมกับบูรณะซ่อมแซมองค์พระให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

หลวงพ่อศรี (องค์ซ้าย) ,หลวงพ่อวันดี (องค์กลาง) , หลวงพ่อสุข (องค์ขวา)
ในส่วนตัวของผม ผมได้เดินทางมาถ่ายรูปที่นี้หลายครั้ง ตั้งแต่ที่ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ จนวันนี้ได้เป็นโบราณสถานที่หลายๆคนเมื่อเดินทางมาจังหวัดอ่างทอง ต้องมาแวะกราบนมัสการขอพร ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก และหวังว่าสถานที่แห่งนี้ จะยังคงศักดิ์สิทธิ์ของความเป็น โบราณสถาน "ธรรมชาติคุ้มครองธรรม" ให้อยู่คู่กับจังหวัดอ่างทองต่อไป


ความคิดเห็น